นิทานดวงดาว12จักรราศี

m119471

ราศีมังกรCapricornus

นิทานกรีก

เทพบดีซูสมอบหน้าที่ให้แกนิมีด ผู้ถือแก้วน้ำของเหล่าเทพเจ้าเป็นผู้ส่งน้ำไปยังโลก โดยเอียงแก้วให้น้ำไหลอย่างไม่ขาดสายกลายเป็นแม่น้ำหลายสายบนโลก รวมทั้งแม่น้ำไนล์ ซึ่งเป็นสถานที่รื่นรมย์ของเทพเจ้าแพน ผู้มีร่างเป็นแพะและชอบเป่าขลุ่ย วันหนึ่งงูยักษ์ไทฟอนจะเข้ามาทำร้าย เทพเจ้าแพน เขาจึงกระโดหนีลงน้ำ แต่ว่ายน้ำไม่เร็วเพราะกีบแพะเล็กนิดเดียว ดังนั้นไท้เทพซูสจึงช่วยแปลงร่างของเทพแพนให้เป็นหางปลา และเรียกสัตว์ชนิดใหม่นี้ว่า แพะทะเล หรือ มกร

เป็นกลุ่มดาวจักรราศีที่อยู่ถัดกลุ่มดาวคนยิงธนูไปทางทิศตะวันออก อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรท้องฟ้ามากกว่ากลุ่มดาวแมงป่องและกลุ่มดาวคนยิงธนู กลางตัวมกรอยู่ห่างไปทางใต้ของเส้นศูนย์สูตรท้องฟ้าประมาณ 20 องศา ประกอบด้วยดาวฤกษ์ที่สว่างไม่มากอย่างน้อย 9 ดวง เรียงเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านโค้ง

zodiac_signs_aquarius

ราศีกุมภ์Aquarius

           กลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ เป็นกลุ่มดาวอันดับที่สิบเอ็ด ของกลุ่มดาวจักรราศี เป็นกลุ่มดาวที่ค่อนข้างหายาก เนื่องจากไม่มีดาวฤกษ์ดวงใด ในกลุ่มที่มีความสว่างปรากฏ สว่างกว่า 2.9 เลย คนโบาณ เห็นเป็นรูปคนแบกหม้อน้ำ กำลังเทน้ำลงในแม่น้ำ Fluvius Aquarii ซึ่งหมายถึง “the River of Aquarius” ซึ่งสายน้ำจะไหล ผ่านกลุ่มดาวปลาทางใต้ (Piscis Austrinus) ที่มีดาวฤกษ์สุกสว่างคือ ดาวโฟมาลออท (Fomalhaut) ขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ประมาณเที่ยงคืนของปลายเดือนสิงหาคม ต้นเดือนกันยายน

นิทานดาว บา บิโลเนียนโบราณ ประมาณ 2000 ปีก่อนคริสตศักราช มองเห็นเป็นรูปหม้อน้ำ ที่มีน้ำล้นออกมา และแทนด้วยสัญลักษณ์ ของคนแบกหม้อน้ำ (Aquarius) ซึ่งในเดือนที่ 11 ของชาวบาบิโลเนียน (หรือระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์) จะเป็นช่วงที่ฝนตกหนักในรอบปี ส่วนชาวอียิปต์โบราณ เห็นเป็นรูปเทพเจ้า Hapi ซึง่เป็นเทพเจ้าแห่งแม่น้ำไนล์ ซึ่งเป็นผู้ให้น้ำ เพื่อการดำรงชีวิตของมนุษย์โลก

%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a8%e0%b8%b5%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%99

ราศีมีน Pisces

นิทานกรีก

นิทานกรีกกล่าว่าปลาทั้งสอง ในกลุ่มดาวปลาเป็นร่างแปลงของ เทพธิดาอโฟรไดที่ (Aphrodite) และบุตรชาย อิรอส(Eros) ซึ่งกระโดดลงไปในแม่น้ำยูเฟรตีส เพื่อหนีภัยจากยักษ์ไทฟอน (Typhon) ผู้หายใจเข้าออกเป็นเปลวไฟ แต่นิทานโรมันเล่าว่า เป็นฝูงปลาที่พาอโฟรไดที่และอิรอสไปสู่ความปลอดภัย

กลุ่มดาวจักรราศีที่อยู่ทางเหนือของเส้นศูนย์สูตรท้องฟ้าเป็นรูปปลา 2 ตัว เรียกว่ากลุ่มดาวปลา ปลาตัวหนึ่งอยู่ถัดสี่เหลี่ยมใหญ่ของกลุ่มดาวม้าปีกไปทางใต้ อีกตัวหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของสี่เหลี่ยมนี้ ปลาทั้งคู่มีสายเชื่อมโยงต่อกันดังรูป ประกอบด้วยดาวฤกษ์แสงริบหรี่ประมาณ 15 ดวง 6 ดวงแรกเป็นปลาตัวที่ 1 และสองดวงสุดท้ายเป็นปลาตัวที่ 2

aries

ราศีเมษ Arise

        กลุ่มดาวจักราศีที่เกี่ยวข้องกับเดือนเมษายน อยู่ทางซีกฟ้าด้านเหนือ อยู่ถัดกลุ่มดาวปลาไปทางทิศตะวันออก เรียกว่า กลุ่มดาวแกะ ดวงอาทิตย์ผ่านกลุ่มดาวแกะระหว่าง วันที่ 19 เมษายน ถึง 14 พฤษภาคม ช่วงเวลาดังกล่าวจึงมองไม่เห็นกลุ่มดาวแกะ เพราะขึ้นและตกพร้อมดวงอาทิตย์

นิทานกรีก

นิทานกรีกกล่าวว่าเทพปริณายกซูส ส่งแกะขึ้นไปท้องฟ้าเพื่อช่วยพริกซัส (Phryxus) และเฮอล์ (Helle) ลูกของราชา แห่งเทสซาลี (Thessaly) ให้รอดพ้นจากทารุณกรรมของแม่เลี้ยงต่อมาพริกซัสได้นำแกะไปบูชายัญ และเมื่อเขาแขวนขนแกะไว้ในป่าเล็ก ๆ อันศักดิ์สิทธิ์ ขนแกะได้ กลายเป็นทองคำ

***นอกจากนี้ขนแกะทองคำนี้ยังเป็นเรื่องราวสำคัญของตำนานกรีกที่กล่าวถึงการเดินทางตามหาขนแกะทองคำของเจสัน

images-1

ราศีพฤษก Taurus

         ในประเทศเฟนิเซียโบราณมีสาวงามชื่อยูโรปา ลูกสาวของอินาคัว ยูโรปาชอบฝูงสัตว์เลี้ยงของพ่อมาก เทพปริณายกซูสได้หลง รักยูโรปา แต่รู้ว่าอินาคัสคงไม่ยอมแน่ จึงแปลงร่างเป็นวัวสีขาวราวหิมะไปปะปนในฝูงสัตว์ เมื่อยูโรปาเห็นวัวสีขาวที่ไม่ดุจึงเข้าไปลูบวัว และขึ้นไปขึ่บนหลัง วันต่อมาเมื่อยูโรปาขึ้นขี่วัวอีก ซูสคิดจะพาเธอไปเกาะครีต (Grete) จึงวิ่งไปอย่างเร็วแต่ไปไม่พ้นเพราะน้ำลึก ด้วยเหตุนี้ เองกลุ่มดาววัวบนท้องฟ้า จึงเห็นเพียงหน้าวัวและโหนกวัวเท่านั้นเอง

สิ่งที่น่าสนใจ

     มีดาว 5 ดวงอยู่ตรงหน้าวัว 2 ดวงอยู่ที่ปลายเขา ดวงหนึ่งอยู่ที่โหนก (ดาวลูกไก่ ซึ่งมีหลายดวง แต่นับดวงสว่างดวงเดียว คือ เอตาวัว) และดวงหนึ่งอยู่ที่หน้าอกของวัว ดาวลูกไก่อยู่ห่างดาวตาวัวประมาณ 2 กำมือ เวลาขึ้นลำตัวและโหนกขึ้นมาก่อน ตามด้วยหน้าวัวและเขาวัวในที่สุด เมื่อขึ้นไปสูงสุดจะอยู่ทางเหนือของจุดเหนือศีรษะเล็กน้อย รูปวัวอยู่ในลักษณะหงายท้อง หลังหันไปทางทิศเหนือ ท้องหันไปทางทิศใต้ หันหัวไปทาง ทิศตะวันออก ขณะลับขอบฟ้าโหนกวัลับขอบฟ้าไปก่อน ตามด้วยหน้าวัวและเขาวัวตาม ลำดับ รวมเวลาที่กลุ่มดาววัวอยู่บนท้องฟ้าทั้งกลุ่มประมาณ 10 ชั่วโมงครึ่ง แต่ถ้านับเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งของกลุ่มเช่น โหนกวัวหรือตาวัวจะอยู่บนท้องฟ้านานกว่า 12 ชั่วโมง

zodiac03

ราศีเมถุน Gemini

นิทานกรีก

คาสเตอร์และพอลลักซ์เป็นชื่อเทพเจ้ากรีก ทั้งคู่เป็นลูกฝาแฝดของเทพบดีซูส หรือเซอุส (Zeus) เมื่อ ฝาแฝดทั้งคู่โตขึ้น แต่ละคนมีพรสวรรค์คนละอย่าง พอลลักซ์เป็นนักชกมวยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ส่วนคาสเตอร์ฝึกฝนตนเอง เป็นผู้ปราบพยศม้าป่าที่มีความสามารถ เล่ากันว่าทั้งคู่มีรูปร่างหน้าตาท่าทางเหมือนกันมาก และเคยออกศึกสงครามร่วม กันหลายครั้ง เมื่อสิ้นชีวิตลง ซูสจึงส่งวิญญาณคนคู่นี้ขึ้นไปบนสวรรค์เป็นดาวที่เห็นชัดเจนตลอดคืนหน้าหนาว อยู่ใกล้ เคียงกันประกอบเป็นกลุ่มดาวคนคู่  ทั้งชาวกรีกและชาวโรมันต่างนับถือบูชาดาวทั้งสองว่าเป็นเทพเจ้าที่คอยคุ้มกันภัยอันตรายต่าง ๆ ทหารบกชาว โรมันหรือชาวกรีก ก่อนออกรบมักจะสวดอ้อนวอนต่อคาสเตอร์และพอลลักซ์ ขอให้พวกตนชนะข้าศึก ทหารเรือก็สวด อ้อนวอนกลุ่มดาวคนคู่เหมือนกัน โดยหวังว่าหากเรืออับปางลงคนคู่จะช่วยให้รอดชีวิตได้ ทุกคนที่สวดมนต์อ้อนวอนจะ ไม่ลืมจบคำอ้อนวอนด้วยคำว่า by Gemini ซึ่งต่อมาเพี้ยนเป็น byJimmy

เป็นกลุ่มดาวจักรราศีที่อยู่ทางเหนือสุด อยู่ถัดกลุ่มดาววัวไปทางทิศตะวันออก ประกอบด้วยดาวฤกษ์อย่างน้อย 8 ดวง เรียงเป็นรูปคนคู่หรือฝาแฝดชื่อว่า คาสเตอร์ และ พอลลักซ์ ซึ่งมีดาวสว่างมาก 2 ดวง อยู่บริเวณศีรษะของคนทั้งสอง ดาวดวงที่ 1, 2, 3, 4 ประกอบกันเป็นฝาแฝดที่ชื่อ พอลลักซ์ ส่วนดวงที่ 5, 6, 7, 8 เป็นฝาแฝดชื่อ คาสเตอร์ ดวงที่ 1 และ 2 เป็นเท้าของพอลลักซ์ ดวงที่ 7, 8 เป็นเท้าของ คาสเตอร์ ชื่อดวงที่ 5 คือ คาสเตอร์ และดวงที่ 4 คือ พอลลักซ์ คนคู่สูงประมาณ 20 องศา และอยู่ห่างกันประมาณ 5 องศา

z04_500

ราศีกรกฏ Cancer

นิทานกรีก

ปูเป็นสมุนลับ ๆ ของเฮรา ผู้เป็นมเหสีของซูส และเป็นศัตรูของเฮอร์คิวลิส เฮราได้สั่งให้ปูไปทำร้ายเฮอร์คิวลิส ขณะที่เฮอร์คิวลิส กำลังต่อสู้กับงูไฮดรา แต่ก็ต้องพ่ายแพ้แก่เฮอร์คิวลิส เฮราจึงนำไปไว้บนสวรรค์กลายเป็นกลุ่มดาวปู

เป็นกลุ่มดาวจักรราศีที่เป็นสัญลักษณ์ของเดือนกรกฎาคม อยู่ถัดจากกลุ่มดาวคนคู่ไปทางทิศตะวันออก ดวงอาทิตย์ผ่านเขตกลุ่มดาวปูระหว่างวันที่ 21 กรกฎาคม ถึง 11 สิงหาคมคิดเป็นระยะทางเชิงมุมที่ดวงอาทิตย์ผ่าน 21 องศา   กลุ่มดาวปูประกอบด้วยดาวฤกษ์ริบหรี่ 5 ดวง มองดูยาก ต้องอาศัยกลุ่มดาวข้างเคียงจึงจะหาพบ กลุ่มดาวปูอยู่ ระหว่างกลุ่มดาวคนคู่และกลุ่มดาวสิงห์

leo

 ราศีสิงห์ Leo

นิทานกรีก

ในสมัยก่อนชาวกรีกโบราณเคารพบูชาดวงจันทร์ซึ่งถือว่าเป็นเทพธิดาชื่อ เซลินี (Selene) นอกเหนือจาก เทพเจ้าที่มีความสำคัญมากกว่า เช่น เทพซูส และเทพอพอลโล ชาวกรีกต้องเซ่นไหว้เทพธิดาและเทพเจ้าเหล่านี้เป็น ประจำทุกปี แต่บังเอิญมีอยู่ปีหนึ่งชาวเมืองเนเมีย (Nemea) ลืมเซ่นไหว้เทพธิดาเซลินี ทำให้เธอโกรธจัดถึงกับส่ง สิงโตจากฟ้าลงมารังควานชาวนาชาวไร่ในเมืองเนเมีย ถ้าเป็นสิงโตธรรมดาก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่มันเป็นสิงโตที่ดุร้าย หนังเหนียวฟันแทงไม่เข้า มันไล่กัดกินสัตว์และมนุษย์ที่ขวางหน้า ผู้คนเดือดร้อนไปทั่ว   ในขณะนั้นราชายูริสธีอัส (Eurystheus) มีผู้รับใช้ที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง คือ เฮอร์คิวลิส (Hercules) ราชายูริสธีอัสจึงทรงพระบัญชาให้เฮอร์คิวลิสไปฆ่าสิงโตดุร้ายนั้นเสีย  เฮอร์คิวลิสเป็นผู้ชายร่างใหญ่ อดทนและแข็งแรงที่สุดในโลก เขามีอาวุธหลายอย่างเช่น ดาบ มีด ธนู แต่ที่ชอบ มากคือ กระบองยักษ์ที่ทำด้วยไม้          เฮอร์คิวลิสเข้าต่อสู้พันตูกับสิงโตดุร้ายอย่างห้าวหาญ แต่ทว่าอาวุธเช่น ธนูและดาบไม่สามารถทำอันตรายกับ ผิวหนังของสิงโตตัวนั้นได้เลย แม้จะใช้กระบองยักษ์ฟาดลงบนหัวของสิงโต ก็ยังไม่สามารถทำอะไรมันได้เช่นกัน ในที่ สุดเฮอร์คิวลิสคิดได้ว่าคงไม่มีอาวุธอันใดที่จะใช้ฆ่าสิงโตตัวนี้ได้ เขาจึงย่อตัวลงต่ำเข้ากอดรัดสิงโต ใส่ \”เฮดล็อก\” สิงโต ดิ้นไม่หลุดถูกรัดคอจนตาย  หลังจากที่เฮอร์คิวลิสล้มสิงโตดุร้ายตัวนั้นได้ เฮอร์คิวลิสได้ถลกหนังหัวและขาหน้าทั้งสองของสิงโตมาทำเป็น เครื่องแต่งตัว โดยห่มหนังสวมหัวเป็นหมวกกันชน และผูกขาหน้าไว้เหนือหน้าอก เขาจึงไม่เพียงมีเกราะคุ้มกันอาวุธ แต่ยังดูดุร้ายน่ากลัวกว่าเมื่อก่อน และถ้าถือกระบองไม้ยักษ์ด้วยแล้วเฮอร์คิวลิสก็เหมือนมนุษย์อยู่ในถ้ำ    เทพธิดาเซลินีได้ส่งสิงโตกลับขึ้นไปอยู่บนฟ้าดังเดิม อยู่กลางฟ้าเป็นกลุ่มดาวจักรราศี โดยเซลินี (ดวงจันทร์) ผ่านทุก ๆ เดือน และสิงโตวิ่งหนีเฮอร์คิวลิสอยู่ตลอดเวลา โดยสิงโตจะอยู่สูงสุดบนฟ้า ในขณะที่เฮอร์คิวลิสขึ้นทางทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อเฮอร์คิวลิสขึ้นไปสูงสุดสิงโตจะลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตก เฮอร์คิวลิสจึงไม่มีทางไล่สิงโตทัน
…เป็นกลุ่มดาวจักรราศีที่เกี่ยวข้องกับเดือนสิงหาคม สัญลักษณ์ของกลุ่มดาวสิงห์คือ ซึ่งหมายถึงหัวและแผงขนที่คอของสิงโตตัวผู้ดวงอาทิตย์ผ่านเขตกลุ่มดาวสิงห์ระหว่างวันที่ 11 สิงหาคม ถึง 17 กันยายน รวม 38 วัน คิดเป็นระยะทางเชิงมุม 34 องศา

zodiac_signs_virgo

ราศีกันย์ Virgo

นิทานกรีก

หญิงสาวพรหมจารีคือ เทพธิดาแอสเตรีย ซึ่งเป็นธิดาของซูสเทพบดีและเทมิส เธอลงมาจากศวรรค์พร้อมน้องสาวชื่อว่า พูดิซิเตรีย ทั้งคู่ถือพรหมจรรย์ ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ แอสเตรียเป็นเทพธิดาแห่งความยุติธรรม ไม่เคยทำให้ผู้ใดหรือสัตว์โลกใด ๆ เลือดตกยางออก เธอปรารถนาที่จะให้โลกร่มเย็น ไม่เบียดเบียนกันและกัน แต่เหตุการณ์กลับเป็นตรงกันข้าม มนุษย์รบราฆ่าฟันกัน ขโมยข้าวของกันและกัน คนจนถูกกดขี่ข่มเหง เธอทนไม่ได้จึงหนีเข้าไปอยู่ในป่าเขา มีผู้คนจำนวนหนึ่งติดตามเธอไป ส่วนเทพธิดาผู้ เป็นน้องสาวทนไม่ไหวจึงขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ แอสเตรียเชื่อว่าความยุติธรรมจะยังคงมีอยู่ในโลก แต่ในที่สุดเธอก็จำเป็นต้องหนีไปอยู่ บนสวรรค์ เมื่อมีอาชญากรรมเพิ่มขึ้น ความยุติธรรมหายไปจากโลกเหลือแต่ความผิดหวังต่าง ๆ แอสเตรียขึ้นไปอยู่บนฟ้าในฐานะ หญิงพรหมจารี ซึ่งเธอจะปรากฏให้เห็นเฉพาะคนที่รักและใฝ่หาสันติภาพกับความยุติธรรมเท่านั้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติ เธอจึงบด รวงข้าวแล้วหว่านเมล็ดข้าวไปรอบฟ้า กลายเป็นทางช้างเผือก ซึ่งมีแต่ความสวยงามร่มเย็น และสันติสุข

…เป็นกลุ่มดาวจักรราศีที่มีส่วนหนึ่งอยู่ในซีกฟ้าด้านเหนือ และอีกส่วนหนึ่งอยู่ในซีกฟ้าด้านใต้ ดวงอาทิตย์ผ่านเขตกลุ่มดาวผู้หญิงสาว ระหว่างวันที่ 17 กันยายนถึง 1 พฤศจิกายน รวม 46 วัน จึงเป็นกลุ่มดาวจักรราศีที่ดวงอาทิตย์ใช้เวลาเดินผ่านนานที่สุด

มีดาวฤกษ์อย่างน้อย 11 ดวง เรียงเป็นรูปผู้หญิงสาว มือซ้ายถือรวงข้าวพอดี ดาวดวงที่สว่างที่สุดในกลุ่ม มีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า แอลฟา-หญิงพรหมจารี เขียนย่อเป็นภาษาอังกฤษว่า -Vir ในรูปคือดาวดวงที่ 1 ส่วนดวงที่ 4, 5, 6 ประกอบกันเป็นบริเวณหน้าอกของหญิงสาวซึ่งมีศรีษะอยู่เหนือดวงที่ 2 เท้าของหญิงสาวอยู่ถัดไปทางดวงที่ 8 ระยะห่างเชิงมุมจากดวงที่ 2 ถึงดวงที่ 8 ประมาณ 40 องศา

e0b895e0b8b8e0b8a5e0b8a2e0b98c

ราศีตุลย์Libra

นิทานกรีก

คันชั่งเป็นเครื่องมือที่เทพีแห่งความยุติธรรมใช้เพื่อวัดความเที่ยงธรรมในโลกมนุษย์ ซึ่งเทพีแห่งความยุติธรรมคือ ทีมิส  เป็นเทพีในกลุ่มไททันตามเทพปกรณัมกรีกซึ่งได้รับการพรรณนาว่าสามารถ “ให้คำปรึกษาที่ดี” และเป็นบุคคลาธิษฐานของความสงบเรียบร้อย กฎหมาย และจารีตประเพณี คำว่า “Themis” แปลว่า “กฎสวรรค์” ตามความเชื่อของกรีก ทีมิสเป็นผู้จัดระบบ “กิจการสังคมของมนุษย์โดยเฉพาะการมาชุมนุมกัน”[

ชื่อของกลุ่มดาวจักรราศีที่แตกต่างจากชื่อของกลุ่มดาวจักรราศีอื่น ๆ คือ กลุ่มดาวคันชั่ง เพราะเครื่องชั่งเป็นของใช้ ไม่มีชีวิต ในขณะที่ชื่อของกลุ่มดาวจักรราศีกลุ่มอื่น ๆ เป็นสิ่งมีชีวิต

กลุ่มดาวคันชั่งเป็นกลุ่มดาวที่อยู่ในซีกฟ้าด้านใต้ อยู่ถัดหัวแมงป่องไปทางทิศตะวันตก ในอดีตถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มดาวแมงป่องบริเวณก้าม ประกอบด้วยดาวฤกษ์ริบหรี่จำนวน 6 ดวง เรียงกันเป็นรูปว่าวปักเป้ามีหางงอๆ
ดวงสว่างที่สุดคือ ดวงที่ 1 ซึ่งมีชื่อที่น่าสนใจเป็นภาษาอาหรับว่า ซูเบนเอสซามาลี (Zubeneschamali) แปลว่า ก้ามแมงป่องที่อยู่ทางทิศเหนือ สว่างรองลงมาก็คือ ดวงที่ 2 มีชื่อว่า ซูเบนเอลเกนูบิ (Zubenelgenubi) แปลว่า ก้ามแมงป่องที่อยู่ทางทิศใต้ เป็นดาวคู่ที่เห็นแยกเป็น 2 ดวงได้เมื่อส่องผ่านกล้องโทรทรรศน์หรือกล้องสองตา กลุ่มดาวคันชั่งเกี่ยวข้องกับเดือนตุลาคมและราศีตุล ในอดีตกว่า 2,000 ปีมาแล้ว ดวงอาทิศผ่านกลุ่มดาวคันชั่งในขณะที่อยู่ในราศีตุล แต่ปัจจุบันดวงอาทิตย์อยู่ในเซตกลุ่มดาวคันชั่งระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 24พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงราศีพฤศจิก

zodiac_signs_scorpio

ราศีพิจิก Scorpio

      แมงป่องตัวนี้เป็นแมงป่องยักษ์ที่ทวดจีอาสั่งให้ไปฆ่านายพรานโอไรออน เพราะโกรธที่โอไรออนพูดว่าเขาสามารถฆ่าสัตว์ป่า ซึ่ง เปรียบเสมือนลูกหลานของนางได้หมดทั้งโลก แม้ว่าจะกลายเป็นกลุ่มดาว บนท้องฟ้าไปแล้ว โดยกลุ่มดาวแมงป่องจะขึ้น ในขณะที่กลุ่มดาวนายพราน กำลังตกลับขอบฟ้า อยู่ทิศตรงข้ามกันตลอดกาล

สิ่งที่น่าสนใจ

ในกลุ่มดาวแมงป่องมีวัตถุฝ้า ๆ ที่น่าสนใจ เช่น

เอ็ม 4 เป็นกระจุกดาวฤกษ์ที่อยู่ทางขวามือของดาวปาริชาตสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

เอ็ม 6 เป็นกระจุกดาวฤกษ์ที่อยู่ทางซ้ายมือของปลายหางแมงป่อง

เอ็ม 7 เป็นกระจุกดาวฤกษ์ที่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า อยู่ใกล้กับเอ็ม 6 โดยอยู่ต่ำกว่า

เป็นกลุ่มดาวจักรราศี มีชื่อเป็นภาษาละตินคือ Scorpius ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Scorpion ซึ่งแปลว่า แมงป่อง (มี 8 ขา ถ้าเป็นแมลงมี 6 ขา) ดาวกลุ่มนี้ไม่มีชื่อไทยดั้งเดิมอย่างเช่นดาวเต่า ดาวไถ แต่เป็นกลุ่มดาวที่เรียงกันเป็นรูปแมงป่องชัดเจนมาก ตั้งแต่หัวผ่านลำตัวเรื่อยไปถึงหาง ถ้าจะนับดาวที่เรียงรายกันอยู่จะมีอย่างน้อย 15 ดวง ดังรูป สามดวงแรกเป็นหัว ถัดไปอีกสี่ดวงเป็นลำตัว และที่เหลือเป็นส่วนหาง บางคนดูรูปดาว 15 ดวงเรียงกันอาจนึกถึงเบ็ดตกปลาโดยมีดวงที่ 15 เป็นปลายเบ็ด

m119482

ราศีธนู Sagitarius

นิทานกรีก

ชาวกรีกโบราณมีความเชื่อว่ามีจังหวัดหนึ่งของกรีกชื่อ ฌะสซาโลนิกา (Thessaionica) มีประชากรเป็นคนครึ่งม้า โดย ครึ่งบนเป็นคนครึ่งล่างเป็นม้าหรือเซนทอร์

เซนทอร์  เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งในเทพปกรณัมกรีก มีร่างส่วนบนเป็นมนุษย์ผู้ชาย แต่ส่วนลำตัวลงไปเป็นม้าหนุ่มที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ สง่างาม อาศัยอยู่แถบภูเขาของอาคาเดีย และเทสสาลีในประเทศกรีซ เซนทอร์มีสองตระกูล โดยตระกูลหนึ่งเกิดจาก อิคซอนอันธพาลแห่งสวรรค์ที่ขึ้นชื่อ กับอีกตระกูลที่เกิดจากโครนัส ฝ่ายหลังมีอุปนิสัยดีแตกต่างจากฝ่ายแรกมาก  เซนทอร์ตระกูลอิคซอน เกิดจากอิคซอนกับเนฟีลี มีพละกำลังมาก ชอบดื่มไวน์กับชอบไล่คว้าผู้หญิง ซ้ำชอบทะเลาะเวลาเมา เซนทอร์จึงถูกมองว่าเป็นพวกขี้เมาไม่กลัวใครทั้งสิ้น  เซนทอร์ตระกูลโครนัสต่างกับตระกูลอิคซอน เป็นเซนทอร์แสนดี โครนัสแต่งงานกับฟีลีร่า นางอัปสรน้ำผู้เลอโฉม มีลูกชื่อไครอน ซึ่งเป็นผู้คงแก่เรียน มีความสุขุมรอบคอบจนได้รับเลือกให้เป็นอาจารย์ของเหล่าวีรบุรุษหลายคนในตำนานกรีก เช่นอคิลลีส, เฮอร์คิวลีส, เจสัน, พีลูส, อีเนียส และบรรดาลูกศิษย์ของเขาก็ประพฤติตัวตามแบบครูบาอาจารย์ได้เป็นอย่างดีฃ

เป็นกลุ่มดาวจักรราศีที่อยู่ถัดกลุ่มดาวแมงป่องทางทิศตะวันออก ประกอบด้วยดาวฤกษ์อย่างน้อย 8 ดวง เรียงกันอยู่คล้ายรูปกาต้มน้ำ แต่ในระบบสากลเรียกว่า กลุ่มดาวคนยิงธนู              ดาวดวงที่ 1, 2, 8 เป็นฝากา ดวงที่ 2, 2, 4 เป็นพวยกา ดวงที่ 4, 5 เป็นฐานกา ดวงที่ 5, 6, 7, 8 เป็นหูกา ดวงที่ 2, 4, 5, 8 เป็นตัวกา ฐานกายาวประมาณ 10 องศา